สถานที่ท่องเที่ยวในด้านหนังสือสำหรับเด็ก

ในด้านหนังสือสำหรับเด็ก สถานที่ท่องเที่ยวมีความถนัดในการเขียนหนังสือสำหรับเด็กระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษาตอนต้น ประเภทสาระบันเทิงที่มีภาพประกอบ ใช้นามจริงในการเขียนเรื่อง
ผลงานหนังสือสำหรับเด็กที่จัดพิมพ์แล้ว สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวเรียงตามลำดับปีที่พิมพ์ ได้แก่ เด็กดี เล่ม 1-3 โป้งกับแป้งอยู่ที่บ้าน ไปรษณีย์จ๋า ลูกหมีเป็นหวัด และหิ่งห้อยประหยัดไฟ (2522) บ้านฉันดีที่สุด (2523) ลิงน้อยนับเลข (2525) เขาคือใคร (2526) โจโจ้น้อย ลูกสัตว์แต่งตัว ลูกหงส์กตัญญู (2529) และสวยสดงดงาม (2530)

สถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกสาริกา

สถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกสาริกา ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนืออยู่
ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวสายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอดๆ สูงถึง 9 ชั้น สถานที่ท่องเที่ยวผาที่สูงที่สุดสูงประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำน้ำมากในฤดูฝนส่วนฤดูแล้งน้ำจะแห้ง บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีบริการร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึก สินค้าพื้นเมืองเช่น ไม้กวาด ดอกไม้ที่ทำจากไม้โสนป่า ฯลฯ การเดินทางสะดวกมากไปสถานที่ท่องเที่ยวตามทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวง 3050 อีกประมาณ 3 กิโลเมตร

สถานที่ท่องเที่ยว บ้านควาย

สถานที่ท่องเที่ยว บ้านควาย  ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 340 (สุพรรณบุรี-ศรีประจันต์) กิโลเมตรที่ 115-116 เป็นสถานที่รวบรวมวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านภาคกลาง มีพื้นที่ 100 กว่าไร่  แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ  เช่น  หมู่บ้านชาวนาแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย  มีลานนวดข้าว  คอกควาย  โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่  บ้านเรือนไทยภาคกลาง

เรือนแต่ละหลังมีกิจกรรมสำหรับผู้สนใจ เช่น เรือนแพทย์แผนไทย การนวดแผนไทย และการใช้สมุนไพร เรือนโหราศาสตร์

มีลานแสดงควาย วันจันทร์-ศุกร์  มีการแสดงรอบ 11.00 น. และ 15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีการแสดงรอบ 11.00 น., 14.30 น. และ 16.00 น. ด้านหน้าทางเข้ามีร้านขายสินค้าที่ระลึกของบ้านควายสำหรับนักท่องเที่ยว บ้านควายเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–18.00 น.

ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท

Thailand: the powerful caste of diviners

สถานที่ท่องเที่ยว In Southeast Asia, and Asia more? In general, the figure dell'indovino has always played an important role in all sectors of society?, starting by the power elite to the layers until you get more? the poor.

Consulted by government leaders, political leaders, businessmen, their responses are always in the spotlight of the media and the subject of heated debate, especially when the same subject to the prophecies of soothsayers are completely inconsistent with each other.

Recently, for example, Thailand is doing very well known to discuss the prediction of Buawiratlert Warin, the beloved prophet of the NSC - National Security Council, the junta after the coup of 2006 and dissolved in February last year after the formation of new government resulting from the December 2007 elections won by the PPP, the party close to former Prime Minister Shinawatra ousted by coup - a few days ago celebrated a rite to "restore peace in the country" which was attended by former members of the CNS, the wife of coup leader Sonthi Boonyaratkalin, a former police chief, a member of the Electoral Commission and 25 monks.

The fortune-teller Warin had in fact predicted in the days prior to the ceremony, an event comparable to a military coup led by the political chaos that breaks out? between late April and May and will lead? the dissolution of Parliament, the fall of the government, resulting in bloodshed and the appointment as prime minister of the armed forces chief, General Anupong, if it for? buy? pi? merits according to the canons of the Buddhist religion.

And to confirm it?, Guess it had added that Prime Minister Samak Sundaravej in office and General Anupong had been very close in a previous life as they had both worked at the royal palace during the reign of King Rama V, one as a senior official and the second as a military officer to the king. Ed? For this reason, according to the soothsayer, in the present life have both been successful.

I know things are incomprehensible to us Westerners. But absolutely not in that hemisphere, far from it. Superstition and the search for auspicious depopulated, Such is the very focus on the number tied to particular days of the week both in business and in the political, but what? also occurs in everyday life? of ordinary citizens.

Each day has its own color and then connected. King Bhumibol, for example? born on a Monday? and the color associated with? yellow. And being a beloved and revered as a deity?, All in Thailand have a yellow polo shirts with the royal coat of arms. Last November, then the King was hospitalized for several days after that throughout the period of his hospitalization around the hospital had formed an encampment of thousands of people day and night they prayed for the king at the time of its release from the hospital was presented to the crowd and the media with a bright pink jacket. Well, all over the country within a few hours thousands of pink t-shirts and polo shirts have been produced and are then snapped up in clothes shops and markets. And what? went on for days and days. All of us? ? born for good luck derived from the newfound good health of the revered King tied to that color.

However, the fortune-tellers often completely wrong predictions and their own Prime Minister Samak in his weekly television program - other than what a typical party for any prime minister in office - he harshly attacked the soothsayer Warin, reminding him that he should be ashamed for Formal estimates of the wrong corner on Democratic victory in elections last December and the subsequent appointment as premier of its leader Abhisit Vejjajiva.

Even former Prime Minister Shinawatra returned home from exile? intervened in the debate urged Thais not to believe the prediction about the bloodbath of the next May.

Moreover, another well-known soothsayer, Luck Lekhanethet, recently stated that the current Constitution desired by the junta coup and voted in a referendum last August, was designed at a bad time from the astrological point of view, and therefore any amendment - at the center of political debate these days, starting from the recognition of Thailand as a Buddhist state - should be done before next August. Adding that those who want to amend the Constitution should be waving a yellow flag at home and also put one on their car.

Here in Italy we are light years away from us all?, Although there is still a degree of superstition, but as the polls now not be more? and often to publish? in the past had proved wrong, who knows? What does the Magician Otelma on the forthcoming elections and the economic recession in sight ...

สะพานบอท StatusNet


Link Wheel สะพานบอท Bot



พอดีผมทำ Link Wheel จาก MicroBlogging ของ StatusNet ยิงไปที่บล็อก สถานที่ท่องเที่ยว แต่ปัญหาอยู่ที่ Bot ไม่เข้า Profile ผมเท่าไหร่ มันเลยไม่ค่อยมีพลัง บทความนี้ผมเลยทดสอบเอา Link มาผึ่งเพื่อให้ Bot เข้ามาใน Profile แล้วเดี๋ยวเอาบทความนี้ไป Ping และ Submit เรียกบอทมาเข้าในวงจะได้ง่ายขึ้นหน่อย

ลิงค์นี้ผมทำเป็น LinkWheel ดังนี้

http://www.qwip.it/siamtrips
http://micro.rorbuilder.info/siamtrips
http://www.tennisfeed.com/siamtrips
http://www.micronewsblog.com/siamtrips
http://projectwrz.com/siamtrips
http://www.fantasygirlstwitter.com/microblog/index.php/siamtrips
http://gaming.status.net/siamtrips
http://clicar.com/siamtrips
http://facebuszek.status.net/siamtrips
http://wiewatenwaar.nl/siamtrips
http://mb.milaro.net/siamtrips
http://microdeo.de/siamtrips
http://slamka.com/siamtrips
http://plasr.com/siamtrips
http://hunihan.com/siamtrips
http://www.tweetcn.com/siamtrips
http://eastasia.status.net/siamtrips
http://tweet.ie/siamtrips

ส่วนวิธีทำผมเขียนสอนไว้ที่ ThaiSEOboard และที่ hackublog.com ลองค้นกันเอาเอง สวัสดี

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

สถานที่ท่องเที่ยว พังงา เป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าเขา พังงา มีพื้นที่ 4,170.895 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 788 กิโลเมตร ชื่อของจังหวัด พังงา นั้นเดิมน่าจะเรียกว่า "เมืองภูงา" ตามชื่อเขางา หรือเขาพังงา ซึ่งอยู่ในตัวเมืองพังงาในปัจจุบัน

Blogger SEO Facebook Tutorials

สถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวสถาน

เมื่อตั้งเมืองขึ้นจึงเรียกกันว่า "เมืองภูงา" เมืองภูงานี้อาจจะตั้งชื่อให้คล้องจองเป็นคู่กับเมืองภูเก็ตมาแต่เดิมก็ได้ แต่เหตุที่เมืองภูงากลายเป็นเมืองพังงานั้น สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเมืองภูงาเป็นเมืองที่มีแร่อุดมสมบูรณ์จึงมีฝรั่งมา ติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมาก และฝรั่งเหล่านี้คงจะออกเสียงเมืองภูงาเป็นเมือง "พังงา" เพราะแต่เดิมฝรั่งเขียนเมืองภูงาว่า PHUNGA หรือ PUNGA ซึ่งอาจอ่านว่า ภูงา หรือจะอ่านว่า พังงา หรือ พังกา ก็ได้ ประวัติศาสตร์เมืองพังงา


จากพงศาวดารปรากฏว่าก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น เมืองพังงาเป็นเมืองแขวงขึ้นอยู่กับเมืองตะกั่วป่า จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองเทียบเท่าเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง และโอนเมืองจากฝ่ายกรมท่ามาขึ้นเป็นฝ่ายกลาโหมตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชดำริที่จะปรับปรุงบูรณะหัวเมืองชายฝั่งตะวันตกที่ถูกพม่าตี จึงได้แต่งตั้งข้าราชการมาเป็นเจ้าเมือง และให้ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ โดยแต่งตั้งให้พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นคร) เป็นเจ้าเมืองพังงาคนแรกในปี 2383

ต่อมาเมืองตะกั่วทุ่งถูกยุบเป็นอำเภอขึ้นกับเมืองพังงา ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 7 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ประชุมเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตจึงมีมติให้ยุบเมืองตะกั่วป่าขึ้นกับจังหวัด พังงาด้วย ตั้งแต่ พ.ศ. 2474 เป็นต้นมา แรกเริ่มที่ตั้งเป็นเมืองนั้นสถานที่ราชการอยู่ที่บ้านชายค่าย ต่อมา พ.ศ. 2473 จึงได้มาสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้นที่บ้านท้ายช้าง

ครั้น พ.ศ. 2515 จึงได้สร้างศาลากลางหลังใหม่ขึ้นบริเวณหน้าถ้ำพุงช้างจนถึงปัจจุบัน จังหวัดพังงาแบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอคุระบุรี อำเภอทับปุด อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง และอำเภอเกาะยาว

ตัวอย่างบทความจาก Hackublog.blogspot.com

2010-01-09_115940
Anti_Facebook_Logo_by_CrapsY

Facebook ถือเป็น Social Network ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จึงเป็นเครื่องมือสำคัญอีกอันหนึ่งในการโปรโมท Blogger ของเราได้เป็นอย่างดี

บทความนี้จึงขอนำเสนอการสร้าง Facebook fan box บน blogger ซึ่งจะช่วยโปรโมท blog ของเราบน facebook ได้ และในทางกลับกันก็ยังสามารถโปรโมทกิจกรรมบน Facebook ของเราใน blog ของเราได้เช่นกัน


ขั้นเตรียมการติดตั้ง

แน่นอนครับใครที่ยังไม่มี Account ใน Facebook ก็ต้องไปลงทะเบียนไว้ก่อน ที่นี่ครับ

เอาล่ะครับ…ตอนนี้ผมก็ขอเหมาว่าทุกคนมี Account ใน Facebook  ครบทุกคนแล้ว ต่อไปก็ดำเนินการติดตั้งจริงกันเลยครับ


ขั้นตอนการติดตั้ง

ขั้นที่ 1 ไปที่สร้างหน้าใน Face book ขึ้นมา 1 หน้า โดยไปที่ >> Create Pages

จากนั้นให้ทำการ Log in จากตรงนี้ (ใครที่ log in อยู่แล้วก็ไม่ต้อง log in ซ้ำครับ)

Facebook Fanbox

ขั้นที่ 2 กรอกรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

Facebook Fanbox1

2.1 ในส่วน Brand, Product, or Oganization: ให้เลือกเป็น website
2.2 ตั้ง Name of Page เป็นชื่อที่ต้องการตามใจชอบ
2.3 ใส่การสะกดอักษร เพื่อให้ทราบว่าเราไม่ใช่พวก Spam!
2.4 คลิกปุ่ม Create Page


ขั้นที่ 3 เมื่อจบขั้นที่ 2 แล้วก็จะเข้าสู่หน้าที่สร้างเมื่อครู่

Facebook Fanbox2

เราสามารถที่จะเปลี่ยนรูปและแก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้นำเมาส์ไป over ที่เครื่องหมาย ? แล้วก็ทำการแก้ไขตามต้องการ

Facebook Fanbox2.1

ขั้นที่ 4 ต่อไปเป็นการ Import blog ของเราเข้าไปใน Facebook ครับ


คลิกที่เครื่องหมาย + และเลือก Note เหมือนในรูป


Facebook Fanbox3


เมื่อปรากฎ แถบ Note ขึ้นมาแล้วก็ คลิกที่ปุ่ม +Write a New Note


Facebook Fanbox4

จากนั้นก็จะปรากฎ หน้าต่างในการเขียน Note ดังรูป


Facebook Fanbox5

ไม่ต้องเขียน Note ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ให้คลิกที่ icon Note ที่ด้านขวา-บน


Facebook Fanbox5.1

จากนั้นให้ คลิก Import blog (ดูรูป) เพื่อนำเข้าบล็อกของเราครับ


Facebook Fanbox5.2

หน้าถัดมาให้ทำการกรอก URL ของ blog ลงไป และคลิกยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงและคลิกปุ่ม  


Start Importing 


Facebook Fanbox5.3

สุดท้ายก็ Confirm Import อีกที


Facebook Fanbox5.4

ขั้นที่ 5 กลับไปที่หน้าหลัก (ของหน้าที่สร้างขึ้น) โดยคลิกที่ ชื่อของหน้า (ดูด้าน ซ้าย-บน)

Facebook Fanbox5.5

ในหน้าหลันี้หากคุณต้องการลบแถบใดที่สร้างขึ้นโดยไม่จำเป็นก็สามารถลบแถบนั้นได้โดยคลิกที่แถบดังกล่าวแล้วเลือก Delete ได้เลยครับ (ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องลบหรอกครับ)




Facebook Fanbox11



ขั้นที่ 6 ตอนนี้ก็ถือว่าเราได้สร้าง Fan Page สำเร็จแล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนนำมาติดตั้งที่ blogger


เพื่อไม่ให้คุณหลงทางอยู่ใน Face book และง่ายต่อการอธิบายของผมด้วย






เมื่อคลิกตามที่ผมนำทางไว้ให้แล้วทุกคนก็จะมาที่หน้านี้


image

เราสามารถเลือกแบบติดตั้งแบบอัตโนมัติบน blogger ได้โดย คลิกที่ Logo ของ blogger ได้เลยครับ





แต่ในที่นี้ผมจะใช้วิธีนำโค้ดไปใส่ใน blog ด้วยตนเองซึ่งทำได้ดังนี้



6.1 คลิกที่ปุ่ม Other และคัดลอกโค้ด ด้านล่างเก็บไว้


image

6.2 Log in เข้าไปที่ blogger ของคุณ คลิกที่นี่




image



6.3 ไปที่แผงควบคุม >> รูปแบบ >> องค์ประกอบหน้า >> เพิ่ม Gadget ชนิด HTML/จาวาสคริปต์ >> วางโค้ดที่ได้คัดลอกในข้อ 6.1 ลงไปและทำการบันทึก

Facebook Fanbox10 copy
หากความกว้างไม่พอดีกับ Template ก็สามารถ ปรับโค้ดได้โดยแก้ที่ตัวเลขความกว้าง ในตำแหน่งที่แสดงในรูปด้านบนได้





สำหรับบทความนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ และเครดิต บทความนี้ก็ขอยกให้ Facebook + bloggerplugins และตัวผมเองครับ thumbsup





สุดท้ายก็ขอให้ติดตั้งได้สำเร็จทุกคนนะครับ


และหากไม่รังเกียจก็ถือโอกาสนี้ ขอเชิญสมาชิกติดตาม เป็นแฟนผมบน facebook นะครับ



HVWCTWPNXW2W

ตัวอย่างบทความจาก Hackublog

feedburner ต่อเนื่องจากบทความ ทำความรู้จักกับ Feed ใน Blogger ผมก็คาดหวังว่าสมาชิกคงจะรู้จักกับ RSS Feed ของ blogger กันแล้ว

บทความนี้จึงจะขยายความต่อในเรื่องตัวกลางในการรับส่ง feed ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงและแนะนำการใช้ FeedBurner เพราะขณะนี้ google ได้ ซื้อ FeedBurner มาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่ชาว blogger อย่างเราจะนำเอา FeedBurner มาใช้งานให้เกิดประโยชน์กับ blog ของเรา

FeedBurner ก็คือแหล่งหรือบริการที่ทำหน้าที่นำ Rss Feed ไปยังแหล่งปลายทาง ซึ่งจะทำให้ผู้รับ สามารถ บอกรับ RSS Feed ผ่าน email , web browser , Google reader เป็นต้น

นอกจากนี้ FeedBurner ยังช่วยให้เจ้าของ Feed ตัวจริงลดภาระแบกค่า bandwitch เพราะ FeedBurner จะทำการแบ่งเบาภาระไปในส่วนนี้แืทน


เมื่อทราบประโยชน์จากการใช้บริการจาก FeedBurner แล้ว เรามาเริ่มศึกษาการใช้บริการกันเลยครับ
 

ขั้นตอนการสมัครและใช้บริการ

1. ไปที่ http://feedburner.google.com และใช้ accout เดียวกับ blogger หรือ gmail กรอกลงไปครับ (ไม่ต้องสมัครใหม่)

Feed1

2. ให้กรอก URL ของบล็อกเราลงไป (ไม่จำเป็นต้องบอกตำแหน่งไปถึง URL ของฟีด)

Feed2 

จากนั้นคลิก Next ส่วนจะเลือก I am a Podcaster ด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องดูด้วยว่าบล็อกเรามี Content เป็น Podcast ด้วยหรือเปล่า ( คลิกข้อความนี้เพื่ออ่านความหมายของ Podcast )

3. ขั้นต่อมาเมื่อ feedburner ตรวจสอบพบ feed ของบล็อกเราแล้ว ก็จะถามว่าต้องการ ใช้ Feed แบบ Atom หรือ แบบ RSS จะเลือกแบบไหนก็ได้ครับ (การทำงานของ Atom และ RSS ก็เหมือนกันครับ RSS เกิดขึ้นมาก่อน Atom เท่านั้น แต่ google จะสนับสนุน (หนุนหลัง) Atom มากกว่า RSS ) ในที่นี้ผมจะเลือก RSS

Feed3
4. ต่อไปเป็นการตั้งหัวข้อของ feed และ URL ของ feed ซึ่งควรจะตั้งให้สัมพันธ์กับชื่อบล็อกครับ และไม่ซ้ำกับชื่อที่มีอยู่แล้ว

Feed4

5. เมื่อตั้งชื่อในข้อ 4 เสร็จแล้ว เราจะได้รับข้อความตอบรับ และบอก URL Feed ของเรา เช่น ในที่นี้ URL ที่ผมได้ก็คือ http://feeds.feedburner.com/Hacku2 จากนั้นก็กด next ครับ

Feed5 

6. ถัดจากข้อ 5. เราก็จะพบกับหน้าต่างนี้ เป็นการตั้งค่าสถิติ ต่างๆ เช่น ดูว่ามีคน subscribed feed ของเรากี่ครั้ง/กี่คนเป็นต้น แนะนำว่าเอาแบบเดิมๆ นี่แหละครับ และกด next อีกทีครับ

Feed7
7. เมื่อจบขั้นที่ 6 ก็ถือว่าเราได้สร้างตัวช่วยในการส่งออก feed ให้กับ blog อย่างเต็มอัตราแล้ว

Feed8

8. ในขั้นนี้เป็นการตั้งค่า feed ให้ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ โดยคลิกที่แถบ Optimize  แล้วคลิกที่ SmartFeed ทางซ้ายมือเพื่อจะเปิดใช้งาน เพราะการเปิดการใช้งาน SmartFeed มีข้อดีคือรองรับทุก Feed Reader นั่นเอง >> สั่ง Activate ได้เลยครับ

Feed9


9. ต่อไปเป็นการเรียกเอา feed ที่สร้างไว้กับ feedburner ไปใช้งาน โดยให้คลิกที่แถบ Publicize และทำการ Activate เครื่องมือต่างๆ ดังนี้

Feed10
เนื่องจากมีหลายเครื่องมือให้เราลงทะเบียน แต่ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนทุกตัว เลือกเอาที่สนใจนะครับ และในที่นี้ผมจะเลือกอธิบาย เครื่องมือ feed ที่สำคัญ ๆ เท่านั้นครับ

9.1 ตัวแรก Email Subscriptions ใช้ในกรณีที่อยากมีใครจะติดตามอ่านบล็อกเราผ่านอีเมล์ สั่ง Activate และ save ได้เลยครับผม

Feed11

Feed12

เมื่อสั่งให้มันทำงานแล้ว ก็ให้คัดลอกโค้ดไปวางในบล็อกโดย Add gadget ชนิด HTML/จาวาสคริปต์ >> วางโค้ดลงไปและบันทึกครับ

โดยปกติแล้วโค้ดของ Email Subscriptions จะไม่มีรูปภาพ ถ้าใครอยากได้รูปภาพสวยๆ ไปใส่ให้ดูสวยงามขึ้นก็เอาจากผมไปได้เลยครับ

<center><img src="http://upic.me/i/xu/9feed.png"/></center>

ตัวอย่างเมื่อนำ Email Subscriptions  มาใส่ในบล็อกครับ



Put Your Email Here :




9.2 ตัวต่อมาก็มาเปิด Feedcount ซึ่งเป็นระบบนับจำนวนคนอ่านฟีดของเรา สั่ง Activate และ save ได้เลยครับผม


Feed13 

จากนั้นให้คัดลอกโค้ดมาแปะที่ blogger ในตำแหน่งที่ต้องการได้ เช่นเดียวกับข้อ 9.1

Feed14

ระบบ FeedCount จะยังทำงานไม่ได้ ถ้าไม่เปิด Awareness API เสียก่อนนะครับ เพื่อให้ผู้ใช้ภายนอก สามารถเชื่อมโยงเพื่อดึงข้อมูลออกไปใช้งานได้ ดังนั้นทุกคนก็ต้องคลิกที่แถบ Awareness API  แล้ว Activate และ save ไปด้วยเลยครับ

Feed15

Trip : เราสามารถนำโค้ดของ Feedcount รวมกับ Email Subscriptions  ได้เลยเพราะจะทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ของ sidebar มากนัก  และเมื่อรวมโค้ด 9.1+9.2 มาแปะที่บล็อกเกอร์แล้วจะได้ผลงานดังนี้ครับ



Enter your e-mail:



9.3 ถึงขึ้นนี้เราก็ได้ลงทะเบียนใช้งาน Publicize ไป 3 ตัวแล้ว เหนื่อยไหมครับ…

Feed16

ต่อไปเป็นการลงทะเบียน ใช้งาน Headline Animator ซึ่งเป็นเหมือนพาดหัวข่าวของบล็อก และมีจุดน่าสนใจคือ มันจะเวียนบทความในบล็อกของเราแบบวงกลมไปเรื่อยๆ ถ้าใครสนใจก็ตั้งค่าต่างๆ ตามความพอใจแล้วตั้งค่า add ไปยัง blogger ของเราครับ (ดูรูป)

Feed17 
และเมื่อทำตามขั้นตอนมาจนกระทั่งถึงหน้านี้แล้ว ให้คลิกที่ “แก้ไขเนื้อหา” เราก็จะเห็นโค้ด เราอาจจะคัดลอกโค้ดไปวางในบล็อกของเราด้วยตนเองก็ได้ หรือถ้าทำตามขั้นตอนไปเรื่อย ๆ ก็จะ add เครื่องมือนี้ไปยังบล็อกของเราโดยอัตโนมัติเช่นกัน (แต่จะปรากฎในตำแหน่งที่เราไม่ต้องการ ซึ่งต้องไปจัดวางตำแหน่งในภายหลังอีกที)

Feed18

9.4 ต่อไป BuzzBoost เป็นเครื่องมือที่ช่วยโปรโมทเว็บไซต์ หรือบล็อก ในกรณีที่คุณมีบล็อกหลายๆ บล็อก เพราะเครื่องมือนี้จะดึงเอา feed จากบล็อกหนึ่งให้ปรากฎยังอีกบล็อกหนึ่งได้ ดดยอาศัยการทำงานของจาวาสคริปต์

ถ้าสนใจก็ ตั้งค่า >> Activate >> คัดลอกเอา โค้ด ไปวางในบล็อกหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่ต้องการได้เลยครับ >> เสร็จแล้วก็อย่าลืม save ด้วยครับ

Feed19

9.5 ตัวต่อมาก็คือ PingShot ก็เปิดใช้งานได้เลย ทุกๆครั้งที่ฟีดเราอัพเดต เจ้า FeedBurner ก็จะแจ้งให้ Search Engine ต่างๆได้ทราบและก็เข้ามาเก็บข้อมูลได้แล้ว ส่วนตัวแนะนำให้เปิดใช้งานครับ ไม่ต้องใช้ระบบ Auto Ping ให้ยาก ลำพังเจ้านี้ ก็ทำการปิงให้เสร็จสรรพ

Feed20

9.6 ต่อไป (คนเขียนเริ่มเหนื่อยครับ) Socialize เครื่องมือนี้จะทำงานร่วมกับ twitter โดย จะส่ง update ของบล็อกเรา ผ่านทาง twitter ให้ด้วย(ดีจริงๆ) ถ้าหากจะใช้งานเครื่องมือนี้ ก็จะต้องมี account ของ twitter ก่อนนะครับ

Feed21
9.7 Chicklet Chooser ใช้เพื่อทำการบอกให้รับรู้ว่าผู้ที่ต้องการรับ Feed จาก Blog ของเราสามารถเรียกใช้จากตัวนี้ได้เลยครับ

ถ้าสนใจก็คลิกเลือก Chicklet Chooser แล้วเลือกครับว่าจะต้องการมีปุ่มบอกรับแบบไหน
เมื่อเลือกได้แล้วก็ทำการ คัดลอกโค๊ดจากในช่อง "Copy the HTML below for use in your own page templates:" ไปวางใน templates ได้เลยครับ

Feed22


10. ต่อไปเฉพาะผู้ที่สนใจทำรายได้ผ่านบล็อก(ในกรณีที่มีคนเข้าชมบล็อกของคุณมากๆ) ก็ให้คลิกที่แถบ Monetize แล้วลองศึกษาดูนะครับ ผมเองยังไม่ได้ทดลองใช้ Monetize เหมือนกันครับ

Feed23


บทความนี้ยาวไปนิด เพราะอยากให้ละเอียด คงไม่ว่ากันนะครับ (ทนๆ อ่านหน่อยนะครับ) 
สุดท้ายก็หวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อชาว blogger ทุกคนครับ

สอนทำบล็อก และสอนแต่งบล็อก




สอนทำบล็อก สอนแต่งบล็อก และสอนเทคนิคการใช้งานต่างๆ ของ blogger ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นสูง ครอบคุรมทุกเรื่อง มีตัวอย่างและอธิบายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน หากต้องการมี หรือบล็อกเป็นของตนเองแบบดูดี มีความเป็นมืออาชีพ สามารถศึกษาได้ที่นี่


http://hackublog.blogspot.com/

หมายเหตุ ไม่มีโฆษณา ไม่ใช่บล็อกหารายได้ ต้องการเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ในการทำบล้อกให้กับผู้อื่นเท่านั้น

 
Create by SEO | หนังโป๊ | แอบถ่าย